อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ของ เรอัล มาดริด ได้ถูก เจนนาโร่ กัตตูโซ่ กล่าวยกย่องว่า ซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของเขาเป็นโค้ชดีสุดในปฐพี

เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ผู้ฝึกสอน บาเลนเซีย กล่าวยกย่องเจ้านายเก่า คาร์โล อันเชล็อตติ นายใหญ่ของ เรอัล มาดริด ว่าเป็นโค้ชดีที่สุดในโลก ก่อนทั้ง2ทีมจะลงประจันหน้ากันบนเวที ซูเปร์ โกปา เด เอสปันญ่า รอบรองชนะเลิศ คู่แรก ในวันพุธนี้ ตามรายงานจากมาร์ก้าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

อันเชล็อตติ กัตตูโซ่

ทั้งสองคนให้ความเคารพและชื่นชมซึ่งกันและกันอย่างมากมาย

แต่ว่าความสัมพันธ์ของทั้ง2ได้รับผลกระทบหลังจาก กัตตูโซ่ เข้ามารับตำแหน่งผู้ฝึกสอนของ นาโปลี ต่อจาก อันเชล็อตติ ในปี 2019 ซึ่งเทรนเนอร์วัย 45 ปียอมรับว่าเป็นจริงตามนั้น

‘ตอนนี้ความสัมพันธ์เหลือน้อยนิด’ กัตตูโซ่ ยอมรับ ‘ตอนผมไปที่ นาโปลี เขาเป็นโค้ชที่ปล่อยให้ผมเข้ามา ไม่กี่เดือนมีการกล่าวคุยกันมากมายในหนังสือพิมพ์ว่าทีมไม่ดีตอนที่ คาร์โล อยู่ที่นั่น มันไม่ดีด้านสภาพร่างกาย’

‘ในตอน 2 ปีนั้น บางอย่างไม่ได้ทำอย่างถูกต้อง แต่ผมเคารพเขามากมาย ผมคุยกับเขาเมื่อปีที่แล้ว เขาทราบดีว่าสำหรับผม เขาเป็นปรากฎการณ์ทั้งในฐานะบุคคลแล้วก็ในฐานะโค้ช’

กัตตูโซ่ ยังกล่าวยกย่อง อันเชล็อตติ ว่าเป็นโค้ชดีที่สุดในโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งแท็คติกที่ทำให้ผู้ฝึกสอนวัย 63 ปีมีความพิเศษ

‘คาร์โล เป็นโค้ชดีที่สุดในโลก’ กัตตูโซ่ กล่าว ‘คาร์โล มาจากเจเนอเรชั่นที่ 3 หรือ 4 ก่อนหน้านี้ และเขามีกุญแจที่จะเข้าไปอยู่ในหัวใจของนักฟุตบอลเสมอ นอกเหนือจากแท็คติกหรือวิธีการโค้ชแล้ว เขาคือที่สุดด้วยเหตุนี้ มันดูเหมือนง่าย แต่ไม่ง่ายเลย’

อันเชล็อตติ

อันเชล็อตติ เป็นเจ้านายเก่าของ กัตตูโซ่

เขาเคยอยู่กับทีมเอฟเวอร์ตัน ในการประกาศมาร่วมงานเอฟเวอร์ตันของ คาร์โล อันเชลอตติ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจไม่น้อย เพราะกุนซือที่มีโปรไฟล์สูงอย่างอันเชลอตติ ตัดสินใจมารับงานทีมขนาดกลางอย่างเอฟเวอร์ตัน นั่นจึงทำให้นั่นจึงทำให้ๆเริ่มมองว่า อันเชลอตติก้าวลงสู่ขาลงเรียบร้อยแล้ว

เป็นความจริงอยู่ว่า การคุมทีมที่นาโปลีและเอฟเวอร์ตัน อาจไม่มีความสำเร็จในฐานะโทรฟี่แชมป์ แต่ว่าอย่างน้อยการคุมทีมทอฟฟี่สีน้ำเงิน อันเชสามารถทำให้นักเตะที่โลกกำลังจะลืมเลือนอย่าง โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน กลายเป็นกองหน้าที่สามาถเขย่าเกมรับของคู่แข่ง ผนึกกำลังร่วมกับ ริชาร์ลิซอน จนเป็นคู่หูแนวรุกที่น่ากลัวที่สุดคู่หนึ่งของพรีเมียร์ลีก

นอกจากนี้แล้ว ด้วยชื่อเสียงและบารมีที่ยังไม่เสื่อมคลายของอันเชลอตติ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ฮาเมส โรดริเกซ ตัดสินใจย้ายมาร่วมงานกับอันเชลอตติที่เอฟเวอร์ตัน ซึ่งสร้างเสียงฮือฮาและกระหึ่มไปทั้งโลกฟุตบอล

ที่น่าสนใจคือ Instagramส่วนตัวของฮาเมส กลับมีจำนวนผู้ติดตามมากกว่าต้นสังกัดอย่างเอฟเวอร์ตันด้วยซ้ำ ซึ่งการมาเอฟเวอร์ตันของฮาเมส ทำให้เอฟเวอร์ตันสร้างฐานการติดตามใหม่ๆ ของแฟนบอล และแฟนดอมของฮาเมส ในลาตินอเมริกาได้มากขึ้นอีกด้วย

ถึงที่สุดแล้ว ผลงาน 2 ฤดูกาลของอันเชลอตติ ยังไม่ใกล้เคียงกับความสำเร็จเดิมๆ ที่เขาเคยทำได้ โดยพาทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินจบในอันดับที่ 12 และ 10 ตามลำดับ

ยอดโค้ช คาร์โล อันเชล็อตติ

อันเชล็อตติ ยอดโค้ช

ถึงแม้ว่า ผลงานของอันเชลอตติที่เอฟเวอร์ตันจะไม่ได้ประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรม หรือใครหลายๆคนเริ่มมองในแง่ลบแล้วว่า อันเชลอตติกลายเป็นเทรนเนอร์ระดับกลางๆ ไปแล้ว แต่เรอัล มาดริด ภายใต้การบริหารของ ฟลอเรนติโน เปเรซ ต้องการหาคนที่เข้าใจบรรยากาของทีมราชันชุดขาว และคนที่สามารถควบคุมห้องแต่งตัวได้ ชื่อของอันเชลอตติจึงได้รับการชูมือจากฝ่ายบริหาร เรอัล มาดริด

การทำงานของอันเชลอตติที่ เรอัล มาดริด รอบที่สอง ว่ากันว่าไม่ได้มีอะไรที่สลับซับซ้อน เน้นความเรียบง่าย โดยอันเชลอตติ พยายามปรับจูนทุกความต้องการให้ลงตัวมากที่สุด ไม่ได้มีการปรับรื้อโครงสร้างการเล่นเกมรับ-เกมรุก แล้วปล่อยให้นักเตะระดับ ‘สตาร์’ ปล่อยของอย่างอิสระ โดยไม่จำกัดกรอบการเล่น

ส่วนแผนการเล่นในการคุมทีมครั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแผนการเล่นแบบ 4-3-3 โดยมีสี่นักเตะวัยเก๋าอย่าง คาเซมิโร, โทนี โครส, ลูกา โมดริช และ คาริม เบนเซมา เป็นแกนหลักของทีม

นอกจากนี้ อันเชลอตติยังมีแรงผลักดันสำคัญจากการที่ตัวเขายังไม่สามารถพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ลาลีกาได้เสียที จึงทำให้การคุมทีมราชันชุดขาวในฤดูกาล 2021-22 อันเช จึงมุ่งมั่นอย่างมากที่จะ ‘ปิดจ๊อบ’ พา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ลาลีกาสมัยที่ 35 ให้ได้ และความสำเร็จที่ คาร์โล อันเชลอตติ ทำได้ ส่งผลให้เขากลายเป็นเทรนเนอร์คนแรก ที่เป็นแชมป์ครบ 5 ลีกใหญ่ของยุโรป

ตลอดทั้งฤดูกาลเราจะเห็นได้ว่า เรอัล มาดริด ของอันเชลอตติ ไม่ได้มีการสร้างแท็กติกอะไรใหม่ๆ เหมือนกันกับผู้จัดการทีมและเฮดโค้ชรายอื่นของยุโรป แต่สิ่งเหล่านี้ สะท้อนว่า อันเชลอตติก็คืออันเชลอตติ ซึ่งยังคงศรัทธาในรูปแบบการเล่นแบบเดียวกับที่ตัวเขาเคยประสบความสำเร็จ

แต่อีกด้านหนึ่ง อันเชลอตติ ก็ยืดหยุ่นมากพอเพื่อให้ทีมก้าวไปถึงความสำเร็จในฐานะแชมเปียนเช่นกัน