เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ กองกลางสโมสรเบนฟิก้ายังคงเนื้อหอมเพราะว่าล่าสุดได้รับความสนใจจาก เปแอสเช มิดฟิลด์วัย 21 ปีทำผลงานยอดเยี่ยมในเวทีฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ และเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญพา อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์เวิลด์ คัพ ได้สำเร็จ พร้อมคว้าตำแหน่งดาวรุ่งยอดเยี่ยมของรายการมาครอง
ที่ผ่านมา เขามีข่าวย้ายทีมต่อเนื่องโดยเฉพาะ หงส์แดง ที่ถูกโยงว่ามีความสนใจกองกลางของสโมสรเบนฟิก้าอย่างมากมาย แถมมีรายงานจากสื่อบ้านเกิดนักเตะที่ระบุทั้งสองสโมสรตกลงกันได้แล้ว
อาร์แอ็มเซ สื่อแดนน้ำหอมกล่าวว่า
ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง เป็นอีกหนึ่งสโมสรที่มีความสนใจดึง เฟร์นานเดซ ไปร่วมทีมแม้ว่าตอนนี้แชมป์ลีก เอิง ปีล่าสุดมีมิดฟิลด์ในสังกัดมากมายแล้วก็ตาม
มั่นใจว่า เปแอสเช ไม่เพียงต้องเจรจากับ เบนฟิก้า ที่พร้อมเรียกเงินก้อนโต แต่ต้องชิงชัยกับบรรดาสโมสรชั้นแนวหน้า อาทิ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แอตเลติโก มาดริด, บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, อาร์เซน่อล และ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่พึงพอใจแข้งรายนี้อยู่เหมือนกัน
มิดฟิลด์วัย 21 ปีลงสนามให้ เบนฟิก้า ไปทั้งสิ้น 24 เกม ทำเป็น 3 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ และกลายมาเป็นแกนหลักของสโมสรทันทีตั้งแต่ย้ายไปร่วมงานเมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา
สื่อจากประเทศฝรั่งเศสทิ้งท้ายว่า เฟร์นานเดซ มีค่าตัวราว120 ล้านยูโรด้วยกัน
“เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ” ดาวดวงใหม่จาก “อาร์เจนติน่า”
อีกหนึ่งดาวรุ่งที่สามารถแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวในทัวร์นาเมนต์นี้คือมิดฟิลด์วัย 21 ปี อย่าง เฟร์นานเดซ ที่ได้กลายเป็นตัวหลักในแผนงานกุนซืออย่าง ลิโอเนล สกาโลนี่ เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งประวัติของเจ้าหนูคนนี้เป็นอย่างไร เส้นทางค้าแข้งก่อนนหน้าเคยผ่านต้นสังกัดไหนบ้าง ไปดูกันเลย
เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ลืมตาทักทายโลกใบนี้เมื่อ 17 มกราคม 2001 ที่ซาน มาร์ติน อาร์เจนติน่า ครอบครัวของเขามีลูกมากถึง 5 คนด้วยกัน ซึ่งตัวของ เขาเองเริ่มเดินตามเส้นทางลูกหนังของตัวเองตั้งแต่วัยเพียง 6 ขวบ เท่านั้น
ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวได้เข้าร่วมกับสโมสรท้องถิ่นที่มีชื่อว่า ลา เรโควา โดยสถานที่แห่งนี้ไม่ต่างอะไรจากพื้นที่ในการให้เข้าได้แสดงฝีเท้า และยกระดับตัวเองขึ้นมา จนไปเข้าตาแมวมองของทีมใหญ่ในแดน “ฟ้า-ขาว” อย่าง ริเวอร์เพลท ทำให้ในปี 2006 เขาถูกดึงไปอยู่ในสังกัดของทีมดังกล่าว เป็นอีกก้าวใหญ่พอสมควรสำหรับเด็กวัย 7 ขวบในตอนนั้น
แน่นอนว่าการเข้าไปเป็นลูกหม้อของ ริเวอร์เพลท ทำให้โอกาสในการเติบโตขึ้นมาในเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพย่อมมีมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมในการพัฒนาจนได้ลงสนามกับทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ
เอ็นโซ่ อยู่กับ ริเวอร์เพลท ตั้งแต่ปี 2006
ภายหลังเข้ามาอยู่ในอคาเดมี่ของ ริเวอร์เพลท ตั้งแต่ปี 2006 เขาใช้เวลาอยู่หลายปีในการศึกษา และเก็บเกี่ยวประวบการณ์ลูกหนังแขนงต่างๆ เพื่อพัฒนาฝีเท้าของตัวเอง ก่อนที่จะได้รับโอกาสครั้งสำคํญในการประเดิมเปิดซิงนัดแรกกับทีมชุดใหญ่ของสโมสร
4 มีนาคม 2019 คงเป็นหนึ่งในวันที่ เขาจำไปตลอดชีวิตกับการได้โอกาสลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของ ริเวอร์เพลท ที่มี มาร์เซโล กายาร์โด้ เป็นคนคุมทัพ พร้อมเปิดโอกาสให้เด็กวัย 18 อย่างเขาลงสนาม
โดยเกมดังกล่าวเกิดขึ้นในเกม โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ที่พบกับ แอลดียู กีโต้ เจ้าตัวลงสนามมาในช่วง 9 นาทีสุดท้ายแทนที่ของ ซานติอาโก้ โซ่ช่า แม้วันนั้นทีมจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 3-0 แต่ทว่ากับเด็กวัย 18 แบบเขาคงเป็นหนึ่งในค่ำคืนที่เหมือนความฝันเป็นจริง จากเด็กหนุ่มน้อยในอคาเดมี่ สู่การก้าวเป็นนักเตะชุดใหญ่อย่างสมบูรณ์แบบ
เฟร์นานเดซ เริ่มต้นออกสตาร์ทกับทีมชาติอาร์เจนติน่าในชุดยู-20 ปี ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวเพิ่งมีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น ทว่าหลังจากนั้นชื่อของเขาก็หายไปจากสารบบไปนาน ก่อนกลับมาอีกทีคือโอกาสกับทีมชุดใหญ่เลย
เกมแรกกับทีมชุดใหญ่ เอ็นโซ่ ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เองกับ จาไมก้า โดยลงเป็นตัวสำรองแทนที่ของ กีโด้ โรดริเกซ ในช่วงนาทีที่ 56 ก่อนลากยาวมีชื่อติกทัพ “ฟ้า-ขาว” มาลุยศึกฟุตบอลโลก
ซึ่งกับในศึกฟุตบอลโลก 2022 นี้เจ้าตัวออกสตาร์ท 2 เกมแรกด้วยการเป็นเพียงตัวสำรอง ก่อนที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าดีพอที่จะก้าวขึ้นมายึดเป็นตัวจริง ว่าแล้ว สกาโลนี่ ก็จัดการมอบโอกาสลงเป็นตัวจริงมาแล้ว 4 เกมติดทั้งเกมดวล โปแลนด์, ออสเตรเลีย, เนเธอร์แลนด์ และ โครเอเชีย กฃายเป็นหมากเด็ดในแดนกลางที่ลงตัวในตอนนี้